ศัลยกรรมเสริมจมูก
Rhinoplasty

ศัลยกรรมเสริมจมูก
ทรงสวยเป็นธรรมชาติ
ซิลิโคนเกรดพรีเมี่ยม
ผ่าตัดโดย ศัลยแพทย์เฉพาะทาง
การศัลยกรรมจมูก (Rhinoplasty)
คือการผ่าตัดเปลี่ยนรูปร่างของจมูก โดยอาจมีจุดประสงค์เพื่อปรับรูปร่างลักษณะของจมูกใหม่ หรือช่วยแก้ปัญหาที่เกี่ยวข้องกับการหายใจ ที่เกิดขึ้นจากอุบัติเหตุหรือความบกพร่องแต่กำเนิด นอกจากนี้ ในปัจจุบันการผ่าตัดทำจมูกยังเป็นการผ่าตัดเสริมความงามเพื่อเสริมความมั่นใจให้ตนเองด้วยเช่นกัน

การผ่าตัดศัลยกรรมจมูกแบ่งออกเป็นหลายประเภท โดยส่วนใหญ่มักจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของรูปร่างจมูกดังนี้
-กำจัดส่วนที่โก่งจนเกินไปที่บริเวณสันจมูก
-ปรับสันจมูกให้ตรงหรือโด่งขึ้น
-ปรับเปลี่ยนรูปร่างของปลายจมูก
-ขยายหรือลดขนาดของรูจมูก
-แก้ไขความผิดปกติของจมูกซึ่งเกิดจากอุบัติเหตุ
-เปิดทางเดินหายใจ
-เสริมหรือลดขนาดของจมูก
การดูแลหลังผ่าตัด
1.ประคบเย็น 4-5 วันหลังผ่าตัด เพื่อให้เลือดหยุดไหล หากไม่ประคบเย็นจะทำให้เกิดเลือดออกและมีพังผืดเกิดขึ้น ส่งผลให้จมูกเบี้ยวได้
2.ดูแลแผลในโพรงจมูกด้วยไม้พันสำลีเช็ดน้ำเกลือ อย่าใช้แอลกอฮอล์ เบตาดีน หรือยาฆ่าเชื้อโรคที่แสบรุนแรง
3.หลีกเลี่ยงการไปในที่ที่มีฝุ่นละอองมากประมาณ 1 สัปดาห์ ป้องกันการไอหรือจาม
4.พบแพทย์ตามนัดตัดไหม 10-14 วัน
5.นอนศีรษะสูง 1-2 สัปดาห์ ให้หลีกเลี่ยงการนอนคว่ำ
6.หลีกเลี่ยงอาหารที่ตนเองแพ้ และอาหารที่ทำให้หน้าบวมแดง เช่น อาหารที่ร้อนจัด อาหารที่มีรสเผ็ด อาหารรสเค็ม แอลกอฮอล์ บุหรี่ อาหารทะเล อาหารหมักดอก เป็นต้น
การระวัง
1.หลังผ่าตัดภายในเวลา 1 เดือน ห้ามให้เกิดการกระแทกที่บริเวณจมูกเด็ดขาด เช่น หลีกเลี่ยงการชน หลีกเลี่ยงการเล่นกีฬาที่มีการกระแทก เช่น บอล บาสเก็ตบอล ฯลฯ หลังจาก 1 เดือนจมูกจะเข้าที่แล้วสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ
2.ห้ามแคะ แกะ เกา หรือขยี้บริเวณจมูก เพราะจะทำให้เกิดการติดเชื้อ
การแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้น
1.จมูกเบี้ยว เนื่องจากการเสริมแท่งซิลิโคนในขนาดที่ใหญ่เกินไป หรือเกิดจากการบกพร่องของการติดเทปในช่วงสัปดาห์แรก ทำให้ซิลิโคนลอยและมีโอกาสบิดซ้ายขวาสูงขึ้น ทำให้เกิดอาการบวมมาก วิธีการแก้ไขคือผ่าตัดใหม่ โดยแพทย์จะเอาแท่งซิลิโคนเก่าออกแล้วให้คนไข้พักจมูกสัก 2-3 เดือน เพื่อทำการเสริมซิลิโคนแท่งใหม่เข้าไป
2.ซิลิโคนทะลุ มีสาเหตุมาจากการเสริมแท่งซิลิโคนที่ขนาดใหญ่เกินไปหรือซิลิโคนอยู่ในช่องที่ไม่มั่นคง ทำให้เลื่อนไปมาและเกิดการทะลุได้ วิธีการรักษาคือผ่าตัดใหม่โดยให้คนไข้พัก 2-3 เดือน ซึ่งแพทย์จะทำการรักษาตั้งแต่ในขั้นของซิลิโคนเกือบทะลุ คือเมื่อเริ่มมีตุ่มน้ำเกิดขึ้น หรือผนังเริ่มบางใสจนมองเห็นแท่งซิลิโคน
